กาแฟแก้วโปรดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบดื่มด่ำกับรสชาติอันหอมหวานบางเบา เน้นรสชาติหวานมันของนมเป็นตัวหลัก บางคนก็ชอบกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติที่ถ่ายทอดผ่านหยดกาแฟที่กลั่นลงมาโดยไร้การส่วนผสมอื่นใดมาทำให้เสียรส และอีกหลากหลายรูปแบบที่สะท้อนตัวตนของคนรักการดื่มกาแฟได้เป็นอย่างดี
แต่สำหรับคนที่ดื่มด่ำไปกับเสน่ห์ของกาแฟมากมายกว่านี้ คงไม่ใช่เพียงแค่ดื่มให้หมดแก้วแล้วจากไปเพื่อเติมคาเฟอีนให้ร่างกายได้สดชื่นเพียงเท่านั้น ยังมีอีกหนึ่งงานศิลปะที่จะพาเราไปดื่มด่ำ รสชาติที่น่าลิ้มลองทั้งสัมผัสจากปลายลิ้นและความเอร็ดอร่อยผ่านสายตา เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า Latte Art ศิลปะสุดสร้างสรรค์ที่จะเปลี่ยนเครื่องดื่มธรรมดาให้ดูน่าสนใจมากขึ้น
ทำความรู้จักกับ Latte Art ศิลปะความงามบนถ้วยกาแฟ
เชื่อว่านักดื่มกาแฟทั้งหลายจะต้องคุ้นหูกับชนิดของกาแฟที่เรียกกันว่าลาเต้ ซึ่งให้รสชาติที่กลมกล่อม ไม่ขมมากจนเกินไป เหมาะสำหรับคนที่ชอบกลิ่นหอมหวานของนมมากเป็นพิเศษ ปริมาณความเข้มข้นของน้ำกาแฟจึงมีสัดส่วนที่ลดลง เน้นรสชาติของนมเป็นพิเศษ
ที่มาของลาเต้ ซึ่งมีความหมายตามภาษาอิตาลีแปลว่า “นม” การดื่มกาแฟลาเต้ของชาวอิตาลี มักนิยมดื่มกันในช่วงเช้า เป็นมื้ออาหารแบบง่ายๆ คู่กับเค้กสักก้อนหรือขนมปังธรรมดา ถือว่าเป็นมื้อหลักเติมพลังอาหารเช้าให้พวกเขาได้เพียงพอก่อนจะถึงช่วงเที่ยงวัน
เมื่อกาแฟชนิดนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น บวกกับความสร้างสรรค์ในผลงานศิลปะ ลาเต้ที่มีฟองนมธรรมดาจึงอาจจะดูซ้ำซากจำเจ ด้วยสัดส่วนของฟองนมที่เป็นองค์ประกอบ มีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตรเป็นส่วนที่ถูกวางอยู่ชั้นบนสุดของแก้ว จึงทำให้การถือกำเนิด Latte Art เกิดขึ้น จากไอเดียที่มาจากเหล่าบาริสต้าในอิตาลีนี่เองที่พยายามค้นหาความสร้างสรรค์ให้แก้วกาแฟได้ถูกแต่งเติมลวดลายที่น่าสนใจลงไป เป็นศิลปะที่กินได้ และยังต้องใช้ความเชี่ยวชาญผสานกับสมาธิในการลากเส้นโดยใช้เทคนิคพิเศษให้ได้ผลงานที่สวยงาม ตั้งแต่รูปร่างแบบง่ายๆ ไปจนถึงสไตล์ Latte Art ที่ซับซ้อนจนแทบไม่กล้าดื่มกันเลยทีเดียว
จากศิลปะสู่การสร้างสรรค์ Latte Art
ก่อนหน้านี้ กาแฟก็เป็นเพียงแค่เครื่องดื่มธรรมดาที่เน้นศิลปะของรสชาติมากกว่าหน้าตาบนฟองนม แต่ด้วยศิลปะของเหล่าบาริสต้าแห่งอิตาลา ดินแดนอีกแห่งหนึ่งที่ได้ขึ้นชื่อถึงความคิดสร้างสรรค์ และยังเป็นต้นกำเนิดของวัฒนธรรมซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการดื่มกาแฟอย่างไม่สามารถแยกออกจากกันได้ บาริสต้าของประเทศนี้ส่วนใหญ่จะต้องผ่านการฝึกฝนมาแล้วเป็นอย่างดี ด้วยความสามารถขั้นสูงจึงทำให้เราจะได้พบกับนักชงมืออาชีพที่เป็นผู้ใหญ่กันไปแล้ว ต่างจากในเมืองไทยที่บาริสต้าบางคนยังเป็นวัยรุ่นอยู่
Latte Art ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อช่วยดึงการตลาดให้กาแฟกลายเป็นเครื่องดื่มที่มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น หรือจะกล่าวง่ายๆ คือ สถานที่ๆ มากมายไปด้วยร้านกาแฟเหล่านี้มีความจำเป็นสูงที่ต้องแข่งขันกันเพื่อเรียกลูกค้าให้เข้ามา จึงเป็นที่มาของการวาดลวดลายลงบนถ้วยกาแฟ เพื่อช่วยให้เติมสีสันและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่เข้ามา
ยิ่งลวดลายซับซ้อนก็ยิ่งช่วยสร้างความประทับใจ กลายเป็นการบอกต่อให้ร้านสามารถเอาชนะคู่แข่งได้มากขึ้น บาริสต้าที่มีฝีมือและฝึกฝนตัวเองในการวาดลวดลายอยู่เสมอจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง และนั่นก็เป็นที่มาว่าเหล่าบาริสต้าในเมืองนี้ล้วนมีความสามารถในระดับสูง เพื่อสร้างสรรค์กาแฟที่ผสมผสานกับงานศิลปะ ความต้องการนักชงมืออาชีพจึงมีความจำเป็นต่อร้านกาแฟทั้งหลายเป็นอย่างมาก
